รวมข้อดีข้อเสียของการสร้างเว็บไซต์ฟรี การมีเว็บไซต์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจและบุคคลทั่วไป อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่ต้องการลงทุนกับค่าโดเมนและค่าโฮสติ้ง หรือมีงบลงทุนจำกัด แพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์ฟรีจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ละแพลตฟอร์มมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน บทความนี้จะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับแพลตฟอร์มยอดนิยมในการสร้างเว็บไซต์ฟรี พร้อมทั้งสรุปว่าเว็บฟรีเหมาะกับใครบ้าง

1. Wix

ข้อดี:

  • ใช้งานง่ายด้วยระบบ Drag & Drop
  • มีเทมเพลตหลากหลายให้เลือก
  • รองรับการปรับแต่ง SEO เบื้องต้น

ข้อเสีย:

  • โดเมนฟรีมีซับโดเมน “yourname.wixsite.com”
  • มีโฆษณาแสดงบนเว็บไซต์เวอร์ชันฟรี
  • พื้นที่จัดเก็บข้อมูลจำกัด

2. MakeWebEasy

ข้อดี:

  • รองรับภาษาไทย ใช้งานง่าย
  • มีเทมเพลตสำเร็จรูปให้เลือก
  • รองรับฟีเจอร์ร้านค้าออนไลน์

ข้อเสีย:

  • เว็บไซต์ฟรีมีซับโดเมน “yourname.makewebeasy.com”
  • ฟีเจอร์บางอย่างต้องสมัครแพ็กเกจเสียเงิน

3. WordPress.com

ข้อดี:

  • เหมาะสำหรับการสร้างบล็อก
  • รองรับการเขียนบทความและ SEO
  • ใช้งานง่าย ไม่ต้องมีความรู้โค้ด

ข้อเสีย:

  • โดเมนฟรีเป็น “yourname.wordpress.com”
  • ไม่สามารถติดตั้งปลั๊กอินและปรับแต่งโค้ดได้ในแพ็กเกจฟรี
  • มีโฆษณาบนเว็บไซต์

4. Google Sites

ข้อดี:

  • ใช้งานฟรี 100% ไม่มีโฆษณา
  • เชื่อมต่อกับ Google Drive และ Google Forms ได้ง่าย
  • เหมาะสำหรับเว็บไซต์ภายในองค์กรหรือเอกสารออนไลน์

ข้อเสีย:

  • ไม่มีเครื่องมือออกแบบที่ยืดหยุ่น
  • ไม่รองรับฟีเจอร์ร้านค้าออนไลน์
  • ไม่สามารถใช้โดเมนกำหนดเองได้ในแพ็กเกจฟรี

5. Webnode

ข้อดี:

  • มีเทมเพลตให้เลือกเยอะ
  • รองรับหลายภาษาในเว็บไซต์เดียว
  • รองรับ SEO เบื้องต้น

ข้อเสีย:

  • ซับโดเมนฟรีเป็น “yourname.webnode.com”
  • แผนฟรีมีพื้นที่เก็บข้อมูลจำกัด

6. Strikingly

ข้อดี:

  • เหมาะสำหรับการสร้างเว็บไซต์หน้าเดียว (One-page website)
  • รองรับการใช้งานบนมือถือดีเยี่ยม
  • มีระบบบล็อกและร้านค้าออนไลน์เบื้องต้น

ข้อเสีย:

  • ซับโดเมนฟรีเป็น “yourname.strikingly.com”
  • ฟีเจอร์อีคอมเมิร์ซจำกัดเฉพาะแพ็กเกจเสียเงิน

7. Weebly

ข้อดี:

  • ใช้งานง่ายด้วยระบบ Drag & Drop
  • มีเทมเพลตสำเร็จรูปให้เลือก
  • รองรับฟีเจอร์ร้านค้าออนไลน์

ข้อเสีย:

  • ซับโดเมนฟรีเป็น “yourname.weebly.com”
  • มีโฆษณาบนเว็บไซต์
  • ไม่สามารถปรับแต่งโค้ดได้มากนัก

8. Carrd

ข้อดี:

  • เหมาะสำหรับเว็บไซต์หน้าเดียวที่เรียบง่าย
  • โหลดเร็ว ใช้งานง่าย
  • ฟรีโดยไม่มีโฆษณาแสดงมากนัก

ข้อเสีย:

  • ซับโดเมนฟรีเป็น “yourname.carrd.co”
  • ไม่รองรับฟีเจอร์อีคอมเมิร์ซ
  • จำกัดจำนวนเว็บไซต์ที่สร้างได้ฟรี

9. InfinityFree

ข้อดี:

  • ให้บริการโฮสต์ฟรี ไม่มีโฆษณา
  • รองรับ WordPress และ PHP
  • มีพื้นที่เก็บข้อมูลไม่จำกัด

ข้อเสีย:

  • ไม่มีโดเมนกำหนดเองฟรี
  • อาจมีปัญหาด้านประสิทธิภาพและความเร็ว

10. Netlify

ข้อดี:

  • เหมาะสำหรับนักพัฒนาเว็บที่ใช้ GitHub หรือ GitLab
  • รองรับการโฮสต์เว็บแบบ Static
  • ฟรีโดเมน “yourname.netlify.app”

ข้อเสีย:

  • ไม่เหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่มีความรู้ด้านโค้ด
  • ไม่มีระบบ CMS มาให้ในตัว

11. Vercel

ข้อดี:

  • เหมาะสำหรับนักพัฒนาที่ใช้ Next.js และ React
  • โฮสต์เว็บ Static ได้ฟรี
  • รองรับการ Deploy อัตโนมัติผ่าน GitHub

ข้อเสีย:

  • ต้องมีความรู้ด้านโค้ดเพื่อใช้งาน
  • ไม่มีเครื่องมือสร้างเว็บแบบ Drag & Drop

สรุป: เว็บไซต์ฟรีเหมาะกับใครบ้าง?

เว็บไซต์ฟรีเหมาะกับ:

  • ธุรกิจขนาดเล็กหรือสตาร์ทอัพ ที่ต้องการเว็บไซต์เบื้องต้น
  • บล็อกเกอร์และนักเขียน ที่ต้องการเผยแพร่เนื้อหาออนไลน์
  • นักเรียน นักศึกษา ที่ต้องการสร้างเว็บไซต์สำหรับโปรเจกต์
  • องค์กรภายใน ที่ต้องการเอกสารออนไลน์แบบไม่ซับซ้อน
  • นักพัฒนา ที่ต้องการโฮสต์เว็บ Static ฟรี

หากต้องการความเป็นมืออาชีพมากขึ้น เช่น การใช้โดเมนกำหนดเอง ไม่มีโฆษณา และฟีเจอร์ครบถ้วน อาจต้องพิจารณาใช้แพ็กเกจเสียเงินหรือเช่าโฮสต์และจดโดเมนแยกต่างหาก

บริษัท ซัคเซส แม๊กซ์ รับสร้างเว็บไซต์ราคาประหยัด หากคุณต้องการเว็บไซต์ที่คุ้มค่า ใช้งานง่าย และตอบโจทย์ธุรกิจของคุณ ทีมเราพร้อมให้บริการสร้างเว็บไซต์ราคาประหยัด พร้อมโซลูชันที่เหมาะสมกับทุกธุรกิจ สนใจติดต่อเราเพื่อขอคำแนะนำฟรี!